"มาริโอ เวย์" เหตุผลที่ "กิเลน" บุกปราบ "มังกร" ถึงถ้ำ

มาริโอ ยูรอฟสกี้
มาริโอ ยูรอฟสกี้ / Muangthong United FC.
facebooktwitterreddit

หลังตามข่าวมาร่วม 10 วัน พยายามสอบถามผู้บริหารของ เมืองทอง ยูไนเต็ด เรื่องนักเตะและโค้ชต้องเข้ากักตัว บอกตรงๆว่าเมื่อวันอังคาร ผมยังเป็นห่วง “กิเลนผยอง” อยู่เลย เพราะเอาเด็กจาก อัสสัมชัญ ธนบุรี มา 4 คน พ่วงด้วยเด็กในอคาเดมี 5 คน ไหนจะเหลือทีมชุดใหญ่แค่ 6 คน จนก่อนแข่งราวๆ 6 ชั่วโมง ก็ได้ข่าวดีต่อเนื่อง เมื่อ มาริโอ ยูรอฟสกี้ กุนซือใหญ่ ได้คุมทีมข้างสนาม

ก่อนจะมีนักเตะทะยอยออกมาจากการกักตัว รวมแล้วพวกเขามีขุนพลเพียงพอต่อการเยือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทว่าเสียเปรียบหลายทาง เพราะออกมาเยือนด้วย แถมผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้ซ้อมเลยสัปดาห์กว่าๆ เรื่องพละกำลังมีปัญหาแน่นอน

แต่ด้วยแนวทางของ “มาริโอ เวย์” ที่ให้ไว้กับทีม นั่นคือ "ลงไปบดขยี้และวิ่งในทุกวินาที อย่าท้อแท้คู่แข่งจะพละกำลังได้เปรียบ และสู้แบบ “ทุบหม้อข้าว” ประหนึ่งกำลังออกรบ" และที่สำคัญคือ ต่อให้ไม่พร้อมเพียงใด พวกคุณก็ต้องสู้เกิน 100 เปอร์เซนต์ เพราะตราสโมสรและแฟนบอลนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด

แม้ครั้งหนึ่งเคยเสียใจ ต่อคำพูดของแฟนบอลบางคน ที่อยากจะให้เขาออกจากสโมสร หลังจากเกมเปิดบ้านเสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-2 แต่สุดท้ายต้องมานั่งเครียด เหตุเพราะการกักตัวของเขาและลูกทีม ทำให้พลาดลงสนามไป 2 เกม ทว่าหัวใจมันเรียกร้องอยากจะแก้มือ

รู้ทั้งรู้ว่าลูกทีมร่างกายไม่พร้อม แต่การ "ปลุกกิเลน ต้องใช้เลือดกิเลน" มันเป็นแพชชั่นที่เขาทำในเกมออกมาชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-0 ก่อนเกมถ้าราคาต่อรองก็ต้องมีคนที่เทใจให้ "ราชันมังกร" แต่เขานี่แหละที่เป็นคนปลุกไฟให้ทุกคนสู้ "ถึงไม่พร้อม พวกมึงก็ต้องเล่นเกิน 100%" ก่อนจะได้ 3 คะแนนไปครอง พร้อมพูดว่า "เราไม่พร้อมในเรื่องสภาพร่างกาย เราไม่ได้ฝึกซ้อมด้วยกัน ใช่มันลำบากกับเรามากๆ แต่เรามาสู้ เรามาโชว์คาแรคเตอร์นักสู้ เมืองทองฯสู้ด้วยกันทั้งทีม"

ยิ่งหลังเกมวิ่งจากซุ้มม้านั่งสำรอง ระยะทางพอสมควรไปดีใจกับสาวก "กิเลนผยอง" ที่ตามมาเชียร์ทีมรัก เหมือนกับปลดปล่อยและยกภูเขาออกจากอก สิ่งนี้แหละที่ทำให้เห็นว่า "มาริโอ ยูรอฟสกี้" เทิดทูนและผูกพันธ์กับสโมสรแห่งนี้มากเพียงใด ทั้งๆที่เขาไม่จำเป็นต้องเป็นกุนซือตามวิถีของนักเตะทั่วไป