เมื่อการไม่มีเทคโนโลยีโกลไลน์ ทำร้าย คริสเตียโน โรนัลโด้ - FEATURE

นอกจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด แล้ว - คริสเตียโน โรนัลโด้ จะต้องเป็นหนึ่งในคนที่เห็นชอบกับเทคโนโลยีโกลไลน์มากที่สุดอย่างแน่นอน หากพิจารณาว่าทั้งคู่ต่างก็เสียผลประโยชน์ให้กับการไร้ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวมาแล้ว
ดาวเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำไป 115 ประตูให้กับทีมชาติ โปรตุเกส ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ฟุตบอลทีมชาติ
ทว่าแท้จริงมันอาจจะเป็น 118 ประตูเพราะอีกสามประตูที่ลูกฟุตบอลข้ามเส้นไปแล้วกลับไม่ถูกนับรวมให้กับสถิติของเขา และหากมองในมุมของ โรนัลโด้ ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกที่เขาจะรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมาก
1. VS เซอร์เบีย 2021
What drama at the end of Portugal vs Serbia. Ronaldo scores but no goal line technology. pic.twitter.com/wa6ZgFp2qd
— MyBlueEmpire (@MyBlueEmpirex) March 27, 2021
ในเกมสุดท้ายของการเตะคัดบอลโลกเมื่อปีที่แล้ว โรนัลโด้ ยิงประตูที่สมควรจะเป็นประตูชัยในช่วงท้ายเกมหลังเสมอกับ เซอร์เบีย อยู่ 2-2
ทว่าผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวกับไม่เป่านับเป็นประตูให้ ทั้งๆที่ภาพช้าชี้ชัดว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว
ประตูนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะมันทำให้ โปรตุเกส ต้องมาเตะเพลย์ออฟเพื่อลุ้นอีกที แทนที่จะได้ตั๋วลอยลำไปเล่นใน กาตาร์ เลย
2. VS สเปน 2010
Throwback to when Nani robbed Cristiano Ronaldo of one of the most incredible goals in recent football history...
— GOAL (@goal) November 26, 2020
He was offside! ?pic.twitter.com/wLYPaDHuWc
ขณะเสมอกันอยู่ 0-0 กับ สเปน - โรนัลโด้ ล็อคหลอก ปิเก้ ซะเสียคนก่อนจะบรรจงส่งบอลลอยลิ่วไปทางตาข่าย เพียงเพื่อจะให้ หลุยส์ นานี่ ที่มาจากไหนไม่รู้โขกระยะเผาขนเข้าไปและประตูดังกล่าวก็ถูกตัดสินว่าล้ำหน้าแทน
อย่างไรก็ดีประตูดังกล่าวนั้นข้ามเส้นไปก่อนแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไรเพราะเขาไม่มีโกลไลน์เทคโนโลยีช่วยยืนยันให้
3. VS อาเซอร์ไบจาน 2006
Cristiano Ronaldo wrongfully disallowed goal vs Azerbaijan in 2006 ?❤️ his goal against Juventus want the first overhead kick. The media won't show you this pic.twitter.com/fxrveTULV9
— Mazi? ?? (@ThaboZondo1) December 8, 2020
มันควรจะกลายเป็นหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดในนามทีมชาติของเขา หากผู้กำกับเส้นทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีกว่านี้