"เซเรโซ่ โอซาก้า" เปิดตัว "เชาว์วัฒน์" คัมแบ็คในรอบ 4 ปี
โดย W.PINTHONG
เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงในสนาม ยันมาร์ สเตดี้ยม มีงานแถลงข่าวเปิดตัว เชาว์วัฒน์ วีระชาติ กองกลางทีมชาติไทย ที่ย้ายจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มายัง เซเรโซ่ โอซาก้า ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน
ฮิโรอากิ โมริชิมะ ประธานสโมสร เซเรโซ่ โอซาก้า เผยว่า "เป็นการกลับมาของ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ในรอบ 4 ปีครึ่ง ปี 2018 เขาใช้เวลาอยู่ในชุด ยู 23 ภาพจำที่เรามี เขามีความตั้งใจ วินัยสูง การจ่ายบอลทำได้ดีมาก สามารถควบคุมเกมได้ หลังหมดสัญญาเขาได้กลับไปเล่นให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พัฒนาจนยึดตัวจริง และก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้สำเร็จ"
"จากนั้นเราก็ติดตามฟอร์มมาตลอด ทำให้เราต้องการเขากลับมาร่วมทีม จึงได้ยื่นข้อเสนอขอยืมตัวเขา พอได้พูดคุยเขาเองก็อยากจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ต้องขอขอบคุณ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปล่อยเขากลับมาอีกครั้ง หวังว่า เชาว์วัฒน์ วีระชาติ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ เซเรโซ่ โอซาก้า พร้อมกับพัฒนาไปสู่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เราจะช่วยซัพพอร์ตเขาแน่นอน"
ด้าน ปิยศักดิ์ ภูมิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด "เรามีความยินดีที่ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ได้มายืนอยู่ที่นี่แล้ว ขอขอบคุณ เซเรโซ่ โฮซาก้า ที่ให้ เชาว์วัฒน์ ได้กลับมาอีกครั้ง เชื่อว่าการมาจะทำให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองไปช่วยทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้"
ส่วน "อินซ์"เชาว์วัฒน์ วีระชาติ กองกลางมันสมอง กล่าวอย่างเป็นทางการในการเปิดตัวกลับไปยังถิ่น "นักรบซากุระ" พร้อมกับสวมเบอร์ 49 ว่า "สวัสดีครับแฟนบอลชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ผมขอขอบุคณโอกาสในครั้งนี้ ผมดีใจที่ได้กลับมาที่นี่ ผมรู้สึกอบอุ่นกับการต้อนรับ และจะขอตั้งใจทำหน้าออกมาให้ดีที่สุด ผมจะพัฒนาตัวเองเพื่อช่วยทีมให้มากที่สุด ฝากแฟนบอล เซเรโซ่ โอซาก้า และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นกำลังให้ผมด้วยครับ"
"ผมรุ้สึกตกใจตอนจบซีซั่นว่า เซเรโซ่ โอซาก้า ได้ให้ความสนใจในตัวผม แต่ผมก็ต้องการที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่นี่อีกครั้ง ผมคิดว่าทัศนคติของผมดีขึ้นทั้งในและนอกสนาม การมาอยู่ที่นี่ตอนแรกเราได้ความมีวินัยสูงขึ้้น ตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น เมื่อผมกลับไปยังเมืองไทย จึงนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาตัวเองตอนซ้อม จนสามารถยึดตัวหลักให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงที่ผ่านมา"
"เพราะนักเตะญี่ปุ่นเป็นคนพยายามฝึกฝนตัวเองทั้งก่อนและหลัง จะมีโปรแกรมพิเศษในการฝึกซ้อมด้วยตัวเองพัฒนาอยู่เสมอๆ การเล่นและสปีดบอลของผมเร็วขึ้น มีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจากการมาเล่นให้ ยู 23 ที่นี่ เมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้ผมดีขึ้นอย่างมาก ผมพร้อมกับโอกาสในการเล่น เจ ลีก จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับระบบทีมให้เร็วที่สุด ต้องการแสดงผลงานออกมาให้ทีมได้เห็น การเจอเพื่อนเก่า ผมดูการเล่นของเขามาตลอด อายุเขายังน้อยแต่ว่าเติบโตเร็วมาก"
"ดีใจมากที่ได้กลับมาเล่นกับเขาอีกครั้งครับ และผมเองก็ดีใจมากที่เขาก้าวมาเป็นรองกัปตันทีม ผมมีจุดเด่นในการจ่ายบอล แต่ทีมเวิร์คจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ เจ ลีก ยังเป็นลีกระดับท็อปของเอเชีย นักเตะไทยต่างมีเป้าหมายอยากจะมาเล่นที่นี่ เพื่อประสบความสำเร็จและยกระดับให้ทีมชาติไทย แม้จะเป็นสัญญายืมตัว แต่ผมอยากจะมาพัฒนาตัวเอง อยากจะทำให้รู้ว่าเราสามารถเล่นที่นี่ได้หรือไม่และนำประสบการณ์ไปช่วยทีมชาติไทย"