[OPINION] อนาคตของ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารราคาแพง ที่ฝือมือไม่แรงเหมือนค่าตัว
โดย ทีมงาน 90min
ช่วงนี้กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนักเลยทีเดียวสำหรับฟอร์มการเล่นของผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติสเปน อย่าง เกปา อร์ริซาบาลาก้า ที่ เชลซี ดึงตัวมาร่วมทีมตั้งแแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกถึง 72 ล้านปอนด์
และด้วยวัยเพียง 23 ปีในขณะนั้น ทางบอร์ดบริหารของ สิงโตน้ำเงินคราม หวังว่าจะการทุบกระปุกในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าในการหาตัวตายตัวแทน ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ที่ย้ายออกจากทีมไปในช่วงเวลาเดียวกัน
ฤดูกาลแรกในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวก็ได้รับความไว้วางใจจาก เมาริซิโอ ซาร์รี ให้ขึ้นมารับตำแหน่งมือหนึ่งของทีมในทันที ซึ่งในปีแรกนี้เจ้าตัวก็ตอบแทนความเชื่อมั่นนี้ด้วยการเซฟไปถึง 82 ครั้ง และเก็บได้มากถึง 14 คลีนชีท มากเป็นอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีก แถมยังถูกเรียกตัวไปรับใช้ชาติในฐานะมือหนึ่งแทบทุกนัดในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2020
แต่แน่นอนมีด้านหล่อ ๆ ก็ต้องมีด้านฮา ๆ เช่นการโชว์ห้าวไปยอมถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ในเกม คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งสุดท้ายพวกเขาพ่ายจุดโทษต่อ แชมป์ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอย่างน่าเสียดาย
กระทั่งในปีนี้ ทีมมีการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่จาก เมาริซิโอ ซาร์รี เป็น กุนซือหนุ่มอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งแน่นอนเจ้าตัวยังคงได้รับโอกาสให้เป็นมือหนึ่งอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา แต่ดูเหมือนปีนี้เกมรับของทีมจะรั่วเป็นพิเศษ และแทนทีจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสเป็นโอกาส ที่จะได้แสดงลีลาการเซฟมากขึ้น เจ้าตัวก็กลับรั่วไหลไปพร้อมกองหลังซะอย่างนั้น เก็บได้เพียง 5 คลียชีท และเซฟไปเพียง 41 ครั้งน้อยที่สุดเป็นอันดับรองสุดท้ายของนายทวารตัวจริงในลีกซีซั่นนี้
ไม่เพียงแค่นั้น แผนการเล่นของ ป๋าแลมพ์ ที่เน้นการออกบอลสั้น เล่นบอลบนพื้น ขึ้นเกมจากหน้าปากประตูและค่อย ๆ ลำเลียงบอลขึ้นไปข้างหน้า แต่เจ้าตัวก็ดันมีข้อเสียที่สำคัญมากอย่างหนึ่งนั่นคือ มีจุดอ่อนอยู่ที่การเล่นบอลด้วยเท้า โดยแฟน ๆ มักจะต้องลุ้นเหนื่อยทุกครั้งเวลากองหลังส่งบอลคืนมาให้ เดียวจับบอลลั่นบ้าง เดียวก็จ่ายบอลเบี้ยวบ้าง ซึ่งเห็นได้แทบจะทุกเกม จนบางนัดเคยร้ายแรงถึงขนาดเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูมาแล้ว อย่างเกมที่บุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 3-1 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประตูที่สามก็มีจุดเริ่มต้นก็มาจากการที่อดีตนายทวารบิลเบา รายนี้ ออกบอลง่าย ๆ แบบไม่มีใครมากดดัน แต่กลับส่งเบี้ยวไม่ตรงเพื่อน จนถูกผู้เล่นเจ้าถิ่นตัดบอลไปได้และเสียประตูในที่สุด นอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวยังมีสถิติแย่ ๆ ในปีนี้อีกมาก ยกตัวอย่างเช่น
- เป็นผู้รักษาประตูที่มีอัตราการเซพต่ำที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
- เสียประตูจากการยิงนอกกรอบมากที่สุดในลีกซีซั่นนี้
- มีจำนวนการเซฟในลีกน้อยที่สุดเป็นอันดับรองสุดท้ายในจำนวนผู้รักษาประตูตัวจริงฤดูกาลนี้
- มีผู้รักษาประตูเพียง 4 คน ใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ที่เก็บคลีนชีทได้น้อยกว่าเจ้าตัว
- หากนับเฉพาะ 5 ลีกชั้นนำของยุโรป เจ้าตัวมาอัตราการเซฟอยู่ในอันดับที่ 127 จากผู้รักษาประตูทั้งหมด 132 คน
นี่ยังถือเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะวีรกรรมการลั่นของนายด่านเลือดกระทิงดุยังมีอีกมากในช่วงครึ่งซีซั่นที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวได้ปิดตัวลงไปแล้ว นั่นหมายความว่าเจ้าตัวจะยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเองอีกประมาณ 4-5 เดือนจนกว่าจะเปิดตลาดซื้อขายครั้งต่อไป เพื่อเร่งฟอร์มและเรียกศรัทธาของทุกคนกลับมาให้เร็วที่สุด ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้ ก่อนที่ฝีไม้ลายมือมือของเขาจะหมดความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญ ก่อนที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด และบอร์ดบริหาร จะตัดสินใจหานายทวารคนใหม่เข้ามาทดแทน !
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด