ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต กลายเป็นชาติหนึ่งที่พวกเขาเต็มไปด้วยทรัพยากรชั้นดีจำนวนนับไม่ถ้วนตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนแทบจะจัดทีมได้ไม่ต่ำกว่า 3 ชุด ผู้เล่นดาวรุ่งตบเท้าโชว์ฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมให้กับสโมสร ขณะที่นักเตะในช่วงอายุต้น 20 ไปจนถึงต้น 30 ต่างผลัดกันสร้างชื่อขึ้นมาอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กัน
เราพาผู้อ่านโหมโรงก่อนศึก ยูโร 2020 กับ 11 ตัวจริงทางเลือกของ ทีมชาติอังกฤษ ในระบบ 3-4-1-2 ที่เราคัดสรรจากฟอร์มการเล่นกับสโมสรต้นสังกัดของพวกเขาในปัจจุบันที่มีสิทธิ์ติดทีมของ เซาธ์เกต ไปโม่แข้ง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซัมเมอร์นี้หากคีย์แมนของทัพ สิงโตคำราม เกิดได้รับบาดเจ็บหรือฟอร์มร่วงในช่วงเวลาที่เหลือของซีซันนี้
1. ผู้รักษาประตู - ดีน เฮนเดอร์สัน
อายุ: 22 ปี
สังกัด: เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
นายทวารวัยกระเตาะที่เติบโตมาจากสถาบันลูกหนังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังคงเป็นผู้เล่นของ ปีศาจแดง ซึ่งถูกส่งให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ 2018 เมื่อครั้งที่ทัพ ดาบคู่ ยังคงวาดลวดลายในศึก แชมเปี้ยนชิพ
เจ้าตัวสถาปนากลายเป็นมือกาวหมายเลข 1 ให้กับ เชฟฟิลด์ ได้ในทันทีพาทีมเลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก พร้อมกับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรควบรางวัลโกลเด้นโกลฟจากสถิติรักษาคลีนชีทได้มากที่สุดใน แชมเปี้ยนชิพ (21) เกมก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญพาทีมของ คริส วิลเดอร์ บินสูงในลีกสูงสุดแดนผู้ดีในขณะนี้
2. วิงแบ็คฝั่งขวา - รีซ เจมส์
อายุ: 20 ปี
สังกัด: เชลซี
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
หนึ่งในตำแหน่งที่ทีมชาติ อังกฤษ เต็มไปด้วยทรัพยากรชั้นนำนับไม่ถ้วนแต่หากตัวเลือกจำนวนมากเหล่านั้นไม่สามารถลงช่วยทีมได้ เราเห็นว่าลูกหม้อของ สิงห์บลู รายนี้มีประสิทธิภาพมากพอจะก้าวขึ้นมาทดแทนบรรดารุ่นพี่อย่างไม่เคอะเขิน
เจมส์ ก้าวขึ้นมาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ สิงห์บลู เป็นฤดูกาลแรกในตำแหน่งแบ็คขวาและทำได้ดีทั้งในเกมรับที่แข็งแกร่งและการเติมเกมรุกอันดุดันรวมทั้งยังมีการครอสจากริมเส้นที่หวังผลได้
3. เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวา - ลูอิส ดังค์
อายุ: 28 ปี
สังกัด: ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟอัลเบียน
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 1 นัด
หนึ่งในปราการหลังเนื้อหอมใน ตลาดซื้อขายนักเตะ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจากผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดทัพ นกนางนวล ในฤดูกาลนี้กับสถิติการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คชาว อังกฤษ ที่แย่งบอลได้มากครั้งที่สุดลำดับที่ 4 บนลีกสูงสุด(41 ครั้ง - ข้อมูล ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์)
ดังค์ ใช้เวลาตลอดเส้นทางค้าแข้งของเจ้าตัวตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนกับ ไบรท์ตัน จนถึงเวลานี้ก่อนที่จะกลายเป็นกัปตันทีมในฤดูกาล 2019/20
ขณะที่กับทัพ ทรีไลอ้อนส์ เจ้าตัวเพิ่งมีโอกาสลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการเพียงนัดเดียวเท่านั้นโดยเป็นนัดกระชับมิตรที่ อังกฤษ เอาชนะ สหรัฐอเมริกา 3-0 โดยเจ้าตัวจับคู่กับ ไมเคิล คีน
4. เซ็นเตอร์แบ็คตัวกลาง - คริส บาแชม
อายุ: 31 ปี
สังกัด: เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
ปราการหลังตัวกลางเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตรผ่านประสบการณ์ทั้งใน ลีกวัน และ แชมเปี้ยนชิพ เป็นคีย์แมนให้กับกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ปีกระทั่งพาทีมขึ้นมาโลดแล่นในศึก พรีเมียร์ลีก กับบทบาทปราการตัวกลางในรูปแบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็คในทีมของ คริส วิลเดอร์
เมื่อเจาะลึกลงไปที่สถิติการเล่นจนถึงเวลานี้ (6 กุมภาพันธ์ 2020) บาแชม กลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ทำสถิติแย่งบอลได้มากที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดีที 52 ครั้ง (แฮร์รี แม็คไกวร์ 41 ครั้ง, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ 27 ครั้ง, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ 25 ครั้ง)
5. เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย - เบ็น มี
อายุ: 30 ปี
สังกัด: เบิร์นลีย์
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
อดีตลูกหม้อพันธ์แท้ชาว แมนเชสเตอร์ โดยกำเนิดจากสถาบันลูกหนังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2006-2011) ก่อนที่จะระเห็จจากทัพ เรือใบสีฟ้า เมื่อไม่สารถทะลุขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในยุคที่พวกเขามีปราการหลังอย่าง แวงซองต์ กอมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์ และ โคโล ตูเร ที่แทบจะการันตีตำแหน่งตัวจริงอัตโนมัติ
เจ้าตัวย้ายจาก แมนฯ ซิตี้ สู่ เบิร์นลีย์ ตั้งแต่เมื่อทีมยังคงอยู่ใน แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2011/12 และสถาปนาตัวเองเป็นคีย์แมนในแนวรับของ เดอะคลาเร็ตส์ 9 ปีต่อเนื่องเข้าไปแล้ว
นอกจากนั้น มี ยังคงเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คชาว อังกฤษ ที่ถนัดเท้าซ้ายเพียงไม่กี่คน (ไทโรน มิงส์, แดน เบิร์น)
6. วิงแบ็คฝั่งซ้าย - แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์
อายุ: 24 ปี
สังกัด: แอสตัน วิลลา
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
แข้งริมเส้นฝั่งซ้ายสารพัดประโยชน์ที่สามารถประจำการทัั้งในตำแหน่งแบ็คซ้ายและมิดฟิลด์ตัวรุกที่กราบซ้าย โดยอดีตลูกหม้อของ เซาแธมป์ตัน รายนี้เพิ่งจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของทัพ สิงห์ผยอง เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแต่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นหนึ่งในคีย์แมนของน้องใหม่ทีมนี้ได้เรียบร้อย
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือเจ้าตัวเป็นแข้งกราบซ้ายใน พรีเมียร์ลีก ที่มีสถิติผ่านบอลให้เพื่อนสับไก (คีย์พาส) ได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ที่ 22 ครั้งหากนับเฉพาะนักเตะชาว อังกฤษ เป็นรองเพียงแค่ แจ็ค กรีลิช - 46 ครั้ง, ราฮีม สเตอร์ลิง - 33 ครั้ง, ดไวท์ แม็คนีล - 32 ครั้ง, เบ็น ชิลเวลล์ - 24 ครั้ง และ ฮาร์วีย์ บาร์นส - 24 ครั้งเท่านั้น
ขณะที่ตัวเลขในเกมรับ ทาร์เก็ตต์ มีสถิติเป็นแข้งกราบซ้ายชาว อังกฤษ ที่สามารถแย่งบอลได้สำเร็จมากครั้งที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ที่ 37 ครั้งหลังผ่านการแข่งขันแมตช์เดย์ที่ 25
7. กองกลาง - เดล สตีเฟนส์
อายุ: 30 ปี
สังกัด: ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟอัลเบี้ยน
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
หนึ่งในนักเตะที่ถูกมองข้ามมากที่สุดบนเวที พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้รวมทั้งเราด้วยเช่นกันหากไม่ได้มีสถิติตัวเลขของเจ้าตัวในมือ
สตีเฟนส์ ผู้ตะลุยฟาดแข้งตั้งแต่ศึก คอนเฟอเรนซ์ลีก, ลีกทู, ลีกวัน และ แชมเปี้ยนชิพ ผู้อยู่โยงกับ ไบรท์ตัน ขึ้นปีที่ 7 ครบเครื่องทั้งเกมรับและการผ่านบอลสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม เจ้าตัวทำสถิติเป็นกองกลางที่แย่งบอลได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ที่ 45 ครั้งหากนับเฉพาะนักเตะชาว อังกฤษ เป็นรองเพียงแค่ ดีแคลน ไรซ์ (55 ครั้ง) เท่านั้นโดยมีสถิติผ่านบอลให้เพื่อนได้สับไกเป็นลำดับที่ 8 ที่ 14 ครั้งใกล้เคียงกับนักเตะอย่าง แจ็ค กรีลิช, เดเล อัลลี ที่ 16 ครั้ง
8. กองกลาง - แอชลีย์ เวสต์วูด
อายุ: 29 ปี
สังกัด: เบิร์นลีย์
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
อีกหนึ่งแข้งที่ถูกมองข้ามเช่นเดียวกับ เดล สตีเฟนส์ ที่หากเราไม่ได้เจาะลึกถึงตัวเลขสถิติก็คงไม่สามารถชี้วัดถึงความยอดเยี่ยมของห้องเครื่องจาก เดอะคลาเร็ตส์ รายนี้ได้เลย
เวสต์วูด กลายเป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลางที่สามารถผ่านบอลให้เพื่อนสับไก (คีย์พาส) ได้มากครั้งที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เป็นลำดับ 4 ที่ 31 ครั้งแปรเปลี่ยนเป็น 5 แอสซิสต์ เป็นรองเพียง เจมส์ แมดดิสัน - 55 ครั้ง, เจมส์ วอร์ด-พราวส์ - 35 ครั้ง และ เมสัน เมานท์ ที่ 34 ครั้งเท่านั้น
9. กองกลางตัวรุก - แจ็ค กรีลิช
อายุ: 24 ปี
สังกัด: แอสตัน วิลลา
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
แจ็ค 'เดอะแบก' กรีลิช กลายเป็นชื่อติดหูคอบอล พรีเมียร์ลีก จากผลงานมหัศจรรย์ที่เจ้าตัวกลายเป็นคีย์แมนของ แอสตัน วิลลา ต่อกรกับบรรดาบิ๊กทีมบนลีกสูงสุดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อจนเราเชื่อเหลือเกินว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด กรีลิช จะมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพล ทีมชาติอังกฤษ ชุดลุยศึก ยูโร 2020 ในซัมเมอร์นี้
เจ้าตัวเป็นแข้งชาว อังกฤษ ที่สามารถเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้มากที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดี 55 ครั้งจากความพยายามทั้งหมด 82 ครั้ง เหนือนักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด (44/89), ราฮีม สเตอร์ลิง (43/84) กระทั่ง เจมส์ แมดดิสัน (42/67)
10. กองหน้า - แดนนี อิงส์
อายุ: 27 ปี
สังกัด: เซาแธมป์ตัน
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 1
อดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล ที่ติดปีกเกิดใหม่ในฤดูกาลที่ 2 ของเขากับ เซาแธมป์ตัน ซึ่งรั้งตำแหน่งดาวซัลโวในลีกสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ร่วมกับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ 14 ประตู ตามหลังเพียง เจมี วาร์ดี้ และ เซร์คิโอ อเกวโร ที่ 17 และ 16 ประตูตามลำดับ
11. กองหน้า - โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน
อายุ: 22 ปี
สังกัด: เอฟเวอร์ตัน
จำนวนนัดกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่: 0
ในวัยเพียงแค่ 22 ปี แทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหนู DCL ดีกรีแชมป์โลก ยู-17 กับทัพ สิงโตคำราม และดาวรุ่งชาวอังกฤษยอดเยี่ยมแห่งปีจาก เอฟเอ เมื่อปี 2018 ผ่านสังเวียนในยูนิฟอร์ม ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน แตะหลัก 100 นัดเข้าไปแล้วใน พรีเมียร์ลีก (120 นัดเมื่อรวมทุกรายการ) เจ้าตัวดูจะยกระดับตนเองได้หลังการเข้ามาของกุนซือคนใหม่อย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ และผลงานในฤดูกาลนี้กลายเป็นซีซันที่ดีที่สุดของเขาในเส้นทางค้าแข้งอาชีพจากตัวเลข 12 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 28 นัด
12. ผู้เล่นชาว อังกฤษ รายอื่นๆ ที่ควรค่าแก่การพูดถึง
ผู้รักษาประตู
- อารอน แรมส์เดล (24 ปี, บอร์นมัธ)
กองหลัง
- อารอน วาน-บิสซาก้า (22 ปี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
- จอร์จ บัลด็อค (26 ปี, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)
- คริส สมอลลิง (30 ปี, โรมา)
- เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (27 ปี, เบิร์นลีย์)
- ฟิกาโย โทโมรี (22 ปี, เชลซี)
- แบรนดอน วิลเลียมส์ (19 ปี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
กองกลาง/ ตัวรุกริมเส้น
- ฮาร์วีย์ บาร์นส (22 ปี, เลสเตอร์ ซิตี้)
- ท็อดด์ คานท์เวลล์ (21 ปี, นอริช ซิตี้)
- ดไวท์ แม็คนีล (20 ปี, เบิร์นลีย์)
- จอห์น ลุนด์สแตรม (25 ปี, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)
กองหน้า
- แอชลีย์ บาร์นส (30 ปี, เบิร์นลีย์)
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด