ผลการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 รอบรองชนะเลิศ
ฝรั่งเศส 1-0 เบลเยียม
คืนวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561
เวลา 01:00 น.
สนาม : เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : ช่อง 5, true4U 24, อัมรินทร์ 34
ฝรั่งเศส มาในสภาพเต็มร้อย เมื่อพวกเขาได้ แบล็ส มาตุยดี้ กลับมาจากติดฌทษแบน พร้อมลงตัวจริงเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกทางซ้ายอีกครั้ง ด้าน เบลเยียม อยู่ในสถานะกลับกัน เมื่อ โตมาส์ เมอนิเยร์ โดนแบนจากการสะสมใบเหลืองครบโควตา ทำให้ มูซา เดมเบลเล ได้โอกาสลงมาทำเกมทางซ้าย
เริ่มเกมมา ฝรั่งเศส ทักทายก่อนเลย เอ็มเบเป้ สปีดพาบอลากขึ้นมาทางริมเส้นก่อนจะส่งกลับเข้าใน แต่แนวรับ เบลเยี่ยม ยังคงเคลียร์ไว้ได้
นาทีที่ 3 เบลเยียม ได้บุกกดดันใส่บ้าง แต่แนวรับ ฝรั่งเศส ยังป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น
นาทีที่ 6 อาซาร์ ได้โอกาสพาบอลเข้าหาเขตโทษ ก่อนตบกลับไปตรงกลาง อุมติตี้ สกัดออกไป
นาทีที่ 12 ฝรั่งเศส ตัดบอลได้ตรงกลาง ปอล ป็อกบา ไหลต่อให้ เอ็มบัปเป้ พาบอลจี้เข้าหาเขตโทษ แต่ กูร์ตัวส์ ออกมาตัดบอลได้ก่อนที่ เอ็มบัปเป้ จะได้ง้างจบสกอร์

นาทีที่ 15 เควิน เดอ บรอยน์ ดีดต่อขึ้นหน้าให้ อาซาร์ ได้โอกาสจบสกอร์ แต่บอลเฉียดเสาออกไป ฝรั่งเศส รอดการเสียประตู
นาทีที่ 21 เบลเยียม ได้เปิดเตะมุมอีกรอบ ชาดลี เป็นคนเปิดเข้ามา โทบี้ อัลเดอร์เวเรลด์ ได้กลับตัวกดด้วยซ้ายเต็ม ๆ แต่เป็นซูเปอร์เซฟของ อูโก้ ยอริส

นาทีที่ 30 ฝรั่งเศส ได้เปิดฟรีคิกเข้ามาลุ้น ปาวาร์ เปิดเข้ามาให้กับ ชิรูด์ ได้โขกแต่บอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 39 เอ็มบัปเป้ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ปาวาร์ ได้โอกาสยิงในเขตโทษ แต่ กูร์ตัวส์ ยังใช้หน้าขาเซฟได้หวุดหวิด

นาทีที่ 43 ฝรั่งเศส ได้โอกาสฟรีคิกระยะหวังผลแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ กรีซมันน์ ยิงติดกำแพงออกไป
ในช่วงทดเวลาครึ่งแรก เบลเยี่ยม มีโอกาสได้บุกก๊อกสุดท้าย แต่ก็ยังไม่เป็นผล จบครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีม เสมอ 0-0
ครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว
GOAL !!!
นาทีที่ 51 ฝรั่งเศส 1-0 เบลเยี่ยม
กรีซมันน์ เปิดเตะมุมมาให้ ซามูแอล อุมติตี้ ได้ปาดขึ้นมาเทคตัวขึ้นโขกก่อน เฟลไลนี ส่งบอลตุงตาข่าย

นาทีที่ 56 จังหวะจ่ายบอลไขว้หลังของ เอ็มบัปเป้ ทะลุช่องให้ ชิรูด์ ได้ยิงโล่ง ๆ แต่ มูซา เดมเบเล ยังตามบล็อคได้ทัน

นาทีที่ 60 ดรีส เมอร์เท่นส์ ลงสนามแทน มุสซ่า เดมเบเล่
นาทีที่ 64 เมอร์เทนส์ เปิดบอลเข้ากลาง ยอริส ต้องทุบทิ้งออกมา จังหวะถัดมา เมอร์เทนส์ ได้เปิดอีกครั้ง เฟลไลนี ได้โอกาสโขกเหน่ง ๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย

นาทีที่ 80 ยานนิค การ์ราสโก้ ลงมาแทน มารูยาน เฟลไลนี
นาทีที่ 81 อาซาร์ พยายามพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่โดนสกัดออกมาได้ จังหวะที่ อักเซล วิตเซล ได้โอกาสสับไกล แต่ อูโก้ ยอริส ทุบทิ้งออกมาได้อีกครั้ง

นาทีที่ 84 ฝรั่งเศส ส่ง เอ็นซองซี ลงมาแทน โอลิวิเยร์ ชิรูด์
นาทีที่ 85 โตลิสโซ ลงสนามแทน มาตุยดี้
นาทีที่ 87 อาซาร์ เรียกใบเหลืองจาก ก็องเต้ ได้ และได้โอกาสเปิดเตะมุมเข้าไปลุ้น แต่ยังโดนเคลียร์ออกมาได้ จังหวะ 2 เดอ บรอยน์ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลูกากู เข้าชาร์จไม่ถึงอีก
นาทีที่ 90+1 มิชี บัตชัวยี ลงมาแทน นาแซร์ ชาดลี
นาทีที่ 90+3 อ็องตวน กรีซมันน์ ได้โอกาสยิง แต่บอลตรงตัว กูร์ตัวส์
จากนั้นหมดเวลา เป็น ฝรั่งเศส ที่ทำได้ดีกว่า เฉือน เบลเยี่ยม ไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ฝรั่งเศส
ยอริส - อุมติตี้, วาราน, แอร์นันเดส, ปาวาร์ - ก็องเต้, ป็อกบา, มาตุยดี้, กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้ - ชิรูด์
ตัวสำรองที่ใช้
เอ็นซ็องซี, โตลิสโซ
La composition de l'Equipe de France !! #FRABEL #FiersdetreBleus pic.twitter.com/ZqTaemlW43
— Equipe de France (@equipedefrance) July 10, 2018
เบลเยียม
กูร์ตัวส์ - ก็อมปานี, อัลเดอร์เวเรลด์, แฟร์ตองเก้น - ชาดลี, วิตเซล, เฟลไลนี, มูซา เดมเบเล - อาซาร์, ลูกากู, เดอ บรอยน์
ตัวสำรองที่ใช้
เมอร์เทนส์, การ์ราสโก้, บัตชัวยี
Line-up ! ⚽️
— Belgian Red Devils (@BelRedDevils) July 10, 2018
🆚 @equipedefrance 🇫🇷
From where do you support us ? 😊
📺 @RTBFsport / @sporza #REDTOGETHER #WorldCup #FRABEL#selectedbyPWC pic.twitter.com/QyQgcRZnHh
ผู้ตัดสิน : อันเดนส กุนญา (อุรุกวัย)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : นิโคลาส ทาราน (อุรุกวัย), เมาริซิโอ เอสปิโนซา (อุรุกวัย)
ผู้ตัดสินที่ 4 และ 5 : เซาร์ รามอส (เม็กซิโก), มาร์วิน ตอร์เรนเตรา (เม็กซิโก)
VAR : มัสซิมิลิอาโน อีร์ราติ (อิตาลี)
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด