ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี : เก็บตก 4 ประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก ชัยชนะของ หงส์แดง ที่ แอนฟิลด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่ง : ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์
1. เกมสูสีตัดสินกันที่ "ความเฉียบขาด"
เกมนี้ทั้งรูปเกมและตัวเลขสถิตินั้น ชี้ว่าทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีทั้งการครองบอล (50/50) ทั้งโอกาสเข้าทำ (10 ครั้งเท่ากัน) แต่สิ่งเดียวที่เป็นข้อแตกต่างในเกมวันนี้คือ ความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ซึ้งแม้ฝั่งทีมเยือนจะมีโอกาสบวกสกอร์หลายครั้งโดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่ก็กลับทำพลาดไปเสียหมด ในขณะที่ด้าน ลิเวอร์พูล กลับเป็นฝ่ายที่สามารถฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดได้ดีกว่าและเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ได้อย่างงดงามจนเป็นที่มาของ 5 ประตูในเกมวันนี้
2. แผงหลังที่ดูจะต้องปรับสำหรับทั้งสองทีม
เกมนี้มีประตูเกิดขึ้นถึง 8 ลูกด้วยกัน ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองทีมยิงประตูเป็นกอบเป็นกำในนัดนี้ก็มาจาก เกมรับที่ดูค่อนข้างหละหลวมของทั้งสองทีม ฝั่ง ลิเวอร์พูล เห็นได้ชัดเลยว่า โจ โกเมซ ดูจะเป็นจุดอ่อนให้ผู้เล่นของทีมเยือนเล่นงานอยู่ตลอด ซึ่ง 2 ประตูที่เสียไปในครึ่งหลังเจ้าตัวก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ ส่วนด้าน เชลซี ดูเหมือนว่าเกมรับในวันนี้จะรวนไปหมด ตั้งแต่ผู้รักษาประตู เซ็นเตอร์ ไปจนถึง วิงแบค ที่ดูจะผิดพลาดง่ายเกินไปจนทีมเกือบจะเสียประตูมากกว่านี้โดยเฉพาะในครึ่งเวลาหลัง
คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าทั้งคู่จะมีการปรับเปลี่ยนหรือเสริมแกร่งให้กับหลังบ้านตัวเองหรือไม่ในฤดูกาลหน้า แต่บอกเลยว่าตอนนี้พวกเขาคงเห็นจุดอ่อนของตัวเองกันแล้ว อยู่ที่ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรเท่านั้น
3. แบ็คสองฝั่งของ หงส์แดง สร้างความแตกต่าง
เกมนี้ต้องชมฟอร์มการเล่นของทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้พร้อม ๆ กันจนสามารถสร้างสรรค์เกมบุกริมเส้นให้กับทีมได้หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเราจะเห็นว่าวิงแบ็คของ เชลซี นั้นมักจะหลุดตำแหน่งและลงมาช่วยเกมรับไม่ทัน นั่นจึงทำให้ทั้ง เทรนต์ และ ร็อบโบ้ มีพี่ที่ให้ได้บรรจงเปิดบอลเข้าไปลุ้นบ่อยครั้ง และในที่สุดก็ทำได้คนละ 1 แอสซิสต์จากลูกเก่งอันแม่นยำของทั้งคู่ในเกมวันนี้
4. พูลิซิช ไพ่ตายของ แฟรงค์ แลมพาร์ด
เกมทำท่าจะขาดลอยไปแลวหลังจาก โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน โหม่งประตู 4 ให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง 4-1 ในนาทีที่ 55 นั่นจึงทำให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป ต้องรีบส่งแข้งตัวเก่งที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทีมตอนนี้อย่าง คริสเตียน พูลิซิช ลงสนามแม้ว่าก่อนเกมจะมีข่าวว่าเจ้าตัวไม่ฟิตเต็มร้อยก็ตาม
ซึ่งหลังจาก "กัปตันอเมริกา" ลงสนามมา รูปเกมของ เชลซี ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งความหลากหลายและสปีดบอล แถมความสามารถเฉพาะตัวของเขายังสร้างปัญหาให้กับแนวรับของเจ้าบ้านได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่มาของ 1 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมไล่มาเป็น 4-3 น่าเสียดายที่ประตูของ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน ในช่วงท้ายเกมกลายเป็นประตูดับความหวังของ สิงห์บลู และสุดท้ายต้องพ่ายแพ้กลับไป
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด