ลิเวอร์พูล 3-1 อาร์เซนอล : สำรวจ 5 ประเด็นร้อนหลัง หงส์แดง ดับ ปืนใหญ่ พรีเมียร์ลีก มันเดย์ไนท์

Liverpool Arsenal 3-1 Diogo Jota Goal
Liverpool Arsenal 3-1 Diogo Jota Goal /
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2020/21
วันแข่งขัน : คืนสันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 3-1 อาร์เซนอล
สนาม : แอนฟิลด์


1. ความเป็นไปของเกม

เกมที่ แอนฟิลด์ ออกสตาร์ทอย่างดุเดือดเลือดพล่านเมื่อต่างฝ่ายต่างไล่บีพื้นที่คู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบนเพื่อกดดันให้อีกฝ่ายเสียบอลที่หน้าบ้านของตนเองจนทำให้ทั้งคู่ต้องเพิ่มความรวดเร็วในการเซ็ตเกมอย่างเห็นได้ชัดโดย อาร์เซนอล ออกอาการเป๋ให้เห็นจากแนวรับอย่าง ร็อบ โฮลดิ้ง และ เอคตอร์ เบเยริน ที่ถูกดันจนออกอาการผิดพลาดจนเกือบทำให้ทีมเสียประตู ก่อนที่ ไอ้ปืนใหญ่ จะฉวยโอกาสจากกับดักเพรสซิงของ หงส์แดง ให้ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ล่อเป้าสังหารประตูเบิกร่องตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรก

หากแต่หลังจากนั้นกลายเป็นการปลุก เครื่องจักรสีแดง ให้ทวีความเข้มข้นในการเดินเกมรุกและพวกเขาใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการตามตีเสมอ ต่อด้วยแซงขึ้นนำอีกไม่กี่นาทีถัดมา

ขณะที่ในครึ่งหลัง ลากาเซ็ตต์ ได้มีโอกาสหลุดเดี่ยวถึง 2 ครั้งทว่ากลับไม่สามารถสังหารผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ได้จนทำให้ ดิโอโก้ โชต้า ลุกจากม้านั่งสำรองยิงประตูฝัง กันเนอร์ส ในที่สุด

2. ทีเด็ดฟูลแบ็ค หงส์แดง

Andrew Robertson and Trent Alexander-Arnold Liverpool
Andrew Robertson and Trent Alexander-Arnold Liverpool /

ในวันที่ตัวรุกริมเส้นของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีพื้นที่ให้กระดิกตัวมากนักจากแนวรับ 5 คนของ อาร์เซนอล กลายเป็น 2 คู่หู แอนดี้ โรเบิร์ตสัน กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับพวกเขาได้อีกครั้ง

หงส์แดง ได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ในช่วงท้ายครึ่งแรกจากการครอสที่กราบขวาของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าทางปืน ร็อบโบ้ ที่เสาสองก่อนที่แบ็คซ้ายทีมชาติ สกอตแลนด์ จะจิ้มผ่านตัว แบร์นด์ เลโน ไปซุกที่ก้นตาข่าย

นอกจากนี้ฟูลแบ็คทั้ง 2 รายยังมีบทบาทกับเกมรุกที่ริมเส้นของเจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกับเจ้าหนู เทรนท์ ที่น่าจะได้มากกว่า 1 แอสซิสต์จากการครอส รวมไปถึงลูกยิงไกลที่แฉลบไปชนคานสนั่น

3. โชต้า นับหนึ่งกับ หงส์แดง

Diogo Jota Liverpool Goal
Diogo Jota Liverpool Goal /

หลังจากเดบิวต์กับ ลิเวอร์พูล ในเกม คาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาแบบไร้สกอร์ มาในเกมนี้ ดิโอโก้ โชต้า ลุกจากม้านั่งสำรองพร้อมกับการมีชื่อบนสกอร์บอร์ดเป็นครั้งแรกให้กับต้นสังกัดใหม่

โชต้า ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 80 แทนที่ ซาดิโอ มาเน และใช้เวลาเพียง 8 นาทีส่งลูกบอลผ่านมือ แบร์นด์ เลโน ด้วยโอกาสครั้งที่ 3 ของเจ้าตัว

ผลจากการทำประตูในเกมนี้ของ โชต้า ทำให้เขากลายเป็นนักเตะ หงส์แดง คนที่ 13 ที่สามารถพังประตูให้กับต้นสังกัดในการประเดิมสนามนัดแรกบนเวที พรีเมียร์ลีก ต่อจาก ซาดิโอ มาเน

4. โอบาเมยอง ล่องหน

Pierre-Emerick Aubameyang Arsenal
Pierre-Emerick Aubameyang Arsenal /

ทีเด็ดของ ไอ้ปืนใหญ่ ที่เคยใช้ได้ผลอย่างการต่อบอลจากแดนหลังก่อนผ่านบอลทแยงมุมให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง โฉบเข้าทำที่กราบซ้ายแทบจะไม่ได้เห็นเลยในเกมนี้เมื่อแนวรับของ หงส์แดง เข้าบีบพื้นที่กดดันและยืนตำแหน่งอย่างมีวินัย ซึ่งเมื่อรูปแบบการเข้าทำดังกล่าวใช้ไม่ผลก็ดูเหมือน โอบาเมยอง แทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครอบครองบอลเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

5. ตัวสำรองที่ไม่สามารถเปลี่ยนเกมได้ของ อาร์เซนอล

Nicolas Pepe Arsenal
Nicolas Pepe Arsenal /

มิเคล อาร์เตต้า ส่งตัวสำรองอย่าง ดานี เซบายอส แทนที่ กรานิท ชาก้า เป็นคนแรกในนาทีที่ 60 ตามด้วย นิโกลาส์ เปเป้ (วิลเลียน นาทีที่ 68) และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (ลากาเซ็ตต์) นาทีที่ 73 แต่มีเพียง เซบายอส เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนโมเมนตันของเกมจากแดนกลางได้ด้วยวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลของเจ้าตัว ในขณะที่ เปเป้ และ เอ็นเคเทียห์ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมอย่างที่ควรจะเป็น


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด