อาร์เซนอล 2-1 ลิเวอร์พูล : เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
โดย โตมร นวลประเสริฐ
ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2020
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 2-1 ลิเวอร์พูล
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
1. ความเป็นไปของเกม
นับว่าเป็นแมตช์ที่น่าหงุดหงิดสำหรับเหล่า เดอะค็อป ไม่น้อยเมื่อทีมรักของพวกเขาสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่กลับต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จาก 2 ประตูที่เสียไปจากความผิดพลาดจากพวกเขาเอง ขณะเดียวกันต้องยกเครดิตให้กับแนวรับของ อาร์เซนอล โดยเฉพาะ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ที่ทำหน้าที่ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยมจนไม่เปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล ได้โอกาสจบสกอร์ถนัดถนี่บ่อยครั้งนัก
แม้ทีมเยือนจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการประสานงานที่กราบซ้ายก่อน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน จะเปิดเลียดให้ ซาดิโอ มาเน ได้แท็บอินเหน่งๆ แต่แล้วความประมาทของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ทำให้เขาผ่านบอลผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ ฉกบอลไปสอยประตูตีเสมอให้หลังจากนั้นไม่นาน ก่อนที่การไล่บีบของ รีสส์ เนลสัน จะทำให้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ส่งบอลไปติด ลากาเซ็ตต์ และเป็น เนลสัน ที่ยิงประตูชัยให้กับเจ้าถิ่นได้ในที่สุด
ขณะที่ในครึ่งหลังลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังสามารถเดินหน้าบุกเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่องแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะตาข่ายเจ้าบ้านได้
2. เกมที้ไร้ความหมายของ ลิเวอร์พูล
สถานะการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่หัววันทำให้เกมที่เหลือทั้งหมดของพวกเขาไร้ควาหมายแทบจะในทันที แม้ว่าก่อนเกมนี้พวกเขามีลุ้นที่จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ที่ทำแต้มได้มากที่สุดก็ตาม
แม้จะเป็นทัศนคติที่ไม่ควระเกิดขึ้นกับนักเตะอาชีพแต่ลึกๆ แล้วมันก็ทำให้บรรดาแข้ง หงส์แดง เกิดอาการเล่นไม่ดุดัน มุ่งมั่น อย่างที่ควรจะเป็น แม้กระทั่งนักเตะอย่าง ฟาน ไดค์ ก็ถูกทัศนคติดังกล่าวเล่นงานเมื่อออกอาการร้องเรียกฟาวล์เมื่อ รีสส์ เนลสัน เข้าปะทะเพื่อแย่งบอลจนเสียหลักไปเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอให้ตัวเขาเสียจังหวะจนผ่านบอลผิดพลาดอันนำไปสู่การเสียประตูตีเสมอ
3. ตัวแปรตัดสินผลการแข่งขัน
อาร์เซนอล ได้ 2 ประตูในเกมนี้จากการยิงตรงกรอบ 2 ครั้งจากการสับไกยิงทั้งหมด 3 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล สร้างสรรค์โอกาสได้ทั้งหมด 24 ครั้ง ตรงกรอบ 8 ครั้ง และผ่านมือ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
นับเป็นการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของนายทวารวัย 27 ปีชาว อาร์เจนตินา ต่อเนื่องหลัง แบร์นด์ เลโน ได้รับอาการบาดเจ็บจนชวดลงเฝ้าเสา และเราเชื่อเหลือเกินว่า มิเคล อาร์เตต้า จะต้องคิดหนักในตำแหน่งมือกาวตัวจริงอย่างแน่นอนเมื่อถึงวันที่ เลโน หายเดี้ยงกลับมาได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด