แอสตัน วิลลา 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ชำแหละ 4 ประเด็นร้อนหลังผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่ วิลลา พาร์ค
โดย โตมร นวลประเสริฐ
ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2020
ผลการแข่งขัน : แอสตัน วิลลา 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : วิลลา พาร์ค
1. ความเป็นไปของเกม
เกมที่ วิลลา พาร์ค ออกสตาร์ทอย่างผิดคาดเล็กน้อยเมื่อ แอสตัน วิลลา เจ้าถิ่นใช้เกมบีบเพรสซิงสูงจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมได้ไม่ถนัดสักเท่าไหร่นัก แต่ สิงห์ผยอง ไม่สามารถรักษาวินัยให้อยู่ตลอดรอดฝั่งได้ ขณะที่ ปีศาจแดง ยิ่งเล่นพวกเขายิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบรรดาแข้งคีย์แมนสามารถเอาตัวรอดจากการไล่บีบพื้นที่ของ วิลลา ได้ดีกว่าเดิมเมื่อเวลาผ่านไป
กระทั่งจุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นหลังผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกไม่นานโดยทีมเยือนได้ลูกจุดโทษจากความพยายามพลิกบอลของ บรูโน เฟร์นันเดส บริเวณเส้นประตูโดยเข้าปะทะกับ คอร์ทนีย์ ฮอส ผู้ตัดสิน จอนห์ มอสส์ ชี้ให้เป็นลูกจุดโทษทันทีแม้ภาพช้าจะแสดงให้เห็นว่าเป็นมิดฟิลด์ชาว โปรตุเกส จะไปเหยียบเท้าเซ็นเตอร์แบ็คคู่แข่งก็ตามก่อนที่ บรูโน จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด
หลังจากนั้นเกมของลูกทีม ดีน สมิธ ก็ช็อตไปดื้อๆ จนมาเสียประตูที่ 2 ให้กับ เมสัน กรีนวูด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ก่อนที่การไม่มีวินัยในช็อตป้องกันลูกเตะมุมที่ดีพอจะทำให้พวกเขาเสียประตูที่ 3 ในช่วงต้นครึ่งหลัง ปิดประตูการคัมแบ็คอย่างสิ้นเชิงในช่วงเวลาที่เหลือของเกม
2. พระเจ้าคนใหม่ของ เร้ดเดวิลส์
ยิ่งผ่านไปแต่ละเกม บรูโน เฟร์นันเดส ยิ่งแสดงให้เห็นถึงชั้นเชิงของตัวเองมากขึ้นทุกนัด เกมแล้วเกมเล่าที่เขาเป็นคนขับเคลื่อนแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด และการดวลกับ แอสตัน วิลลา ที่ วิลลา พาร์ค ก็ไม่ต่างไปจากเดิม
บทบาทกองกลางตัวรุก/หน้าต่ำ ในรูปแบบการเล่น 4-2-3-1 โดยมี ปอล ป็อกบา กับ เนมานยา มาติช ยิ่งเสริมให้กองกลางทีมชาติ โปรตุเกส โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขามีอิสระเต็มที่ในการสร้างสรรค์เกมรุก คอยหาพื้นที่ว่างรับบอลก่อนจะเล่นง่ายอย่างมีประสิทธิภาพผ่านบอลให้กับบรรดาแนวรุกเข้าทำ รวมไปถึงการเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษเพื่อหาโอกาสจบสกอร์ด้วยตนเอง
การทะยานโฉบเข้าไปในเขตอันตรายเป็นที่มาของการได้ประตูเบิกร่อง ปีศาจแดง และเจ้าตัวน่าจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดอย่างน้อย 2 ครั้งด้วยซ้ำหากจังหวะโหม่งเหน่งๆ ไม่หลุดกรอบออกไป
ทั้งนี้ การแอสซิสต์ให้กับ ป็อกบา ในครึ่งหลังยังทำให้เจ้าตัวผ่านบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตูไปแล้ว 6 ครั้งใน พรีเมียร์ลีก หลังลงเล่น 10 นัด นับว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้เทียบเท่ากับนักเตะอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน, อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต เออซิล, ลี ชาร์ป, ดาวิด ชิโนลา และ ดูซาน ทาดิช
3. เด็กระเบิด เมสัน กรีนวูด
แม้ เมสัน กรีนวูด จะออกสตาร์ทอย่างเชื่องช้าไปสักหน่อย แต่เมื่อเครื่องติดแล้วก็ไม่มีอะไรที่จะหยุดลูกหม้อ แมนฯ ยูไนเต็ด วัย 18 ปีรายนี้ได้
พื้นที่ว่างซึ่งแนวรับของ วิลลา เปิดโอกาสให้ กรีนวูด เพียงพริบตาเดียวทำให้ สิงห์ผยอง ถูกลงโทษในทันทีจากการจบสกอร์บริเวณหัวกระโหลกด้วยเท้าขวาชนิดเข้าข้อของเจ้าหนูวัยกระเตาะ นับเป็นการยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 3 ติดต่อกันเข้าไปแล้วของเจ้าตัว ซึ่งไม่เคยมีนักเตะอายุไม่เกิน 19 ปีรายใดของ ปีศาจแดง ทำได้นับตั้งแต่ที่ เวย์น รูนีย์ ทำไว้ในปี 2005 ด้วยวัย 19 ปี 125 วัน
4. วิลลา อาการน่าเป็นห่วง
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ของ แอสตัน วิลลา ทำให้พวกเขารั้งอันดับรองบ๊วยบนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก แข่ง 34 นัดมี 27 คะแนน ตามหลัง วัตฟอร์ด ในอันดับที่ 17 อยู่ 4 แต้ม แถมมีประตูได้เสียย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มทีมลุ้นหนีตกชั้นด้วยกันที่ -29 (หากไม่นับ นอริช ซิตี้ ที่ -37)
ทัพ สิงห์ผยอง ไร้พิษสงอย่างสิ้นเชิงเมื่อคีย์แมนสำคัญของพวกเขาอย่าง แจ็ค กรีลิช ไม่สามารถร่ายมนตร์ได้เหมือนเคย ขณะที่ส่วนประกอบในแนวรุกของทีมที่ริมเส้นอย่าง อันวาร์ เอล-อาซี และ เทรเซเกต์ บอดสนิท
ในช่วงเวลาอีก 4 นัดที่เหลือของฤดูกาลทั้ง ดีน สมิธ ในตำแหน่งกุนซือและ จอห์น เทอร์รี กับบทบาทผู้ช่วยต้องหาจุดเปลี่ยน สร้างรูปแบบการเข้าทำที่ประสาน กรีลิช กับเพื่อนร่วมทีมรายอื่นให้ลงตัวกว่าเดิมหากพวกเขาหวังที่จะอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ต่อไป
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด